privacy-policy

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าและผู้มุ่งหวัง

เรา ตัวแทนประกันชีวิต กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตเลขที่ 6301045873 (“ตัวแทนประกันชีวิต”) ให้คำมั่นสัญญาว่าข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวของท่านจะได้รับความคุ้มครอง เอกสารซึ่งอ้างอิงท่านมาที่นโยบายนี้ (เช่น กรมธรรม์ประกันภัยของท่าน) จะแจ้งรายละเอียดของตัวแทนประกันชีวิตซึ่งกำลังเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม กฎ หรือระเบียบใด ๆ ที่ออกภายใต้พระราชบัญญัติดังกล่าว (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) สำหรับวัตถุประสงค์ของนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ การอ้างอิงถึง “เรา” เป็นการกล่าวอ้างถึง ตัวแทนประกันชีวิต

นอกจากนี้ บุคคลใด ๆ ผู้ที่มีชื่ออยู่ในกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน และได้ให้ความยินยอมแก่ท่านเพื่อกระทำการแทนพวกเขา ควรได้รับทราบนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ด้วย

สำหรับการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่มีชื่อในกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน ท่านรับทราบว่าเราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นตามวัตถุประสงค์เพียงเท่าที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และเราจะแจ้งให้ท่านทราบเพิ่มเติมถึงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่น

เราอาจจำเป็นต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้อยู่เป็นระยะ เช่น เพื่อให้เป็นไปตามกฎข้อบังคับของรัฐบาล เทคโนโลยีใหม่ หรือ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลหรือความเป็นส่วนตัว ท่านควรจะตรวจสอบหน้าเว็บไซต์ ตัวแทนประกันชีวิต อยู่เป็นระยะเพื่อดูนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับล่าสุดของเรา

  1. หลักการความเป็นส่วนตัว

เมื่อเราเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะทำให้แน่ใจว่าเราจะดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสมและจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านตามหลักการความเป็นส่วนตัวที่กำหนดไว้ด้านล่างนี้ และจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย และจะไม่ขายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอก

เราตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของท่าน ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวด้วย “ข้อมูลส่วนบุคคล” ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและรวมถึงบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในคำขอเอาประกันชีวิตของท่าน ("บุคคลที่เกี่ยวข้อง”) เช่น ผู้เอาประกันภัย ผู้รับผลประโยชน์หรือผู้ชำระเบี้ยประกันภัย ทั้งนี้ตั้งแต่การเสนอขายประกันชีวิตตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายหลังจากการรับประกันชีวิตของท่าน และยังรวมถึงผู้ที่อาจไม่ใช่ลูกค้าของเราแต่มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูล เช่น ผู้ร้องเรียน ผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากท่าน เป็นต้น

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะอธิบายวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หลังจากนี้ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจะเรียกว่า ข้อมูลส่วนบุคคล

  • ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป หมายถึง ข้อมูลใดๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลใดๆ ที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนดให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน
  1. เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

ในขณะที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากหลายช่องทาง โดยมีสองช่องทางหลักที่เราอาจจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน คือจากการที่ท่านให้ข้อมูลแก่เราโดยตัวท่านเอง และจากการที่เราขอให้บุคคลหรือองค์กรอื่นแบ่งปันข้อมูลของท่านแก่เรา ข้อมูลต่างๆ ที่ท่านได้ให้กับเราสามารถรวมถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์ ข้อมูลที่ท่านเขียนไว้ในใบคำขอ หรือหากท่านเขียนแสดงความคิดเห็นไว้ในที่สำหรับให้แสดงความคิดเห็นของเรา นอกจากนี้ เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลหรือองค์กรอื่น เช่น บุคคลกรทางการแพทย์ ผู้ให้บริการทางเครดิต หรือจากการตรวจสอบฐานข้อมูล โปรดดูช่องทางที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้านล่างนี้

เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง

  • จากการกรอกแบบสอบถาม แบบฟอร์มการลงทะเบียนและการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
  • จากการกรอกแบบให้ผลตอบกลับและแสดงความคิดเห็น
  • เมื่อท่านซื้อผลิตภัณฑ์หรือเข้ารับบริการใด ๆ จากเรา
  • เมื่อท่านกรอกแบบสำรวจผ่านทางเว็บไซต์ของเรา
  • ผ่านใบเสนอราคาและใบคำขอเอาประกัน
  • ผ่านคุกกี้
  • ผ่านการติดต่อทางโทรศัพท์กับท่าน ซึ่งอาจถูกบันทึกไว้
  • เมื่อท่านให้รายละเอียดข้อมูลของท่านกับเราไม่ว่าทางออนไลน์หรือออฟไลน์

นอกจากนี้ เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น ซึ่งรวมถึง

  • จากสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และ
  • จากบุคคลภายนอก รวมถึง
    - สมาชิกครอบครัวของท่าน กรณีที่ท่านอาจจะเป็นผู้ไร้ความสามารถหรือไม่สามารถให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ประกันภัยของท่านได้
    - บุคลากรทางการแพทย์ และโรงพยาบาล
    - บุคคลภายนอกซึ่งช่วยเราในการตรวจสอบการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อการจ่ายค่าสินไหมทดแทน
    - บุคคลภายนอกอื่น ได้แก่ บริษัทผู้ให้บริการแบ่งประเภทของผู้บริโภคเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น ข้อมูลส่วนแบ่งการตลาด และ
    - บุคคลภายนอกผู้ให้ข้อมูลที่ตัวแทนประกันชีวิต อาจใช้เพื่อแจ้งการตัดสินใจในการรับประกันภัย เบี้ยประกันภัย และการเลือกความเสี่ยง
    - หน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
  1. เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้าง

เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รายละเอียดข้อมูลติดต่อของท่านข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตของท่านข้อมูลที่เราเก็บรวมรวมจะขึ้น อยู่กับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านให้ความสนใจ เช่น กรณีท่านมีความสนใจซื้อประกันภัยรถยนต์หรือประกันภัยการเดินทาง เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ที่ท่านขับ หรือสถานที่ที่ท่านวางแผนจะเดินทางไป และสำหรับประกันสุขภาพ เราอาจสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประวัติสุขภาพของท่านหรือบุคคล ในครอบครัวของท่าน ในบางกรณี เราอาจขอและ / หรือรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน เช่น เราอาจจำเป็นต้องเข้าถึงบันทึกข้อมูลสุขภาพเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการให้แก่ท่านเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยหรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน หรือรายละเอียดคำพิพากษาของศาลเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกัน ตรวจสอบ และสอบสวนการฉ้อโกง เป็นต้น โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่างเกี่ยวกับรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม

ในกรณีที่ ตัวแทนประกันชีวิต เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับท่าน ดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
    - ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ชื่อ อีเมล ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์
    - ข้อมูลบุคคลอื่นใดที่ระบุและมีชื่อในกรมธรรม์ของท่านและความสัมพันธ์กับท่านในฐานะผู้ถือกรมธรรม์
    - ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identification Information) เช่น วัน เดือน ปีเกิด เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง
    - ข้อมูลทางการเงิน (Financial Information) เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบสถานะทางการเงินของท่าน
    - ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน เช่น รายละเอียดกรมธรรม์เดิมหรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์เดิม
    - ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของท่านและความเกี่ยวข้องในเรื่องอันเป็นเหตุในการเรียกร้องดังกล่าว
    - ข้อมูลที่ได้จากการใช้คุกกี้
    - ข้อมูลความสนใจทางการตลาดของท่าน (Marketing preferences)
    - ข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบการดำเนินชีวิตและสังคมของท่าน (Lifestyle and social circumstance) ได้แก่ ความสนใจของท่าน เช่น ท่านเล่นกีฬาหรือไม่ สถานะทางครอบครัว หรือจำนวนผู้ที่อยู่ในความดูแลของท่าน
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
    - ข้อมูลสุขภาพร่างกาย หรือสุขภาพจิตของท่าน ณ ปัจจุบัน หรือในอดีตที่ผ่านมา
    - ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตทางเพศ หรือพฤติกรรมทางเพศ เช่น สถานภาพสมรส
    - ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม รวมถึงประวัติการถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด การดำเนินคดี ผลการพิจารณาและโทษทางคดีอาญา (การตัดสิน ว่ากระทำความผิดอาชญากรรม การลงโทษเกี่ยวกับการล้มละลายและทางด้านการเงินอื่น ๆ ในอดีต เช่น คำพิพากษาของศาล)

อนึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว อาทิ ศาสนา หมู่เลือด เป็นข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่อาจติดมากับเอกสารอื่นๆ โดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งบริษัทมิได้มีวัตถุประสงค์ในการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในประมวลผล หากท่านไม่ประสงค์ที่จะ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้กับบริษัท ท่านสามารถถมดำหรือขีดฆ่าข้อความดังกล่าวพร้อมลงชื่อกำกับไว้เป็นหลักฐานได้

  1. เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

โดยหลัก เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการจัดให้กรมธรรม์ประกันภัยหรือผลประโยชน์แก่ท่าน และเพื่อการให้บริการที่เหมาะสมแก่ท่านตามสถานการณ์ของท่าน ดังนั้น หากท่านมีปัญหาใด ๆ เราจะมีเครือข่ายผู้ให้ข้อมูลและผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสมไว้พร้อม และเราสามารถรายงานความคืบหน้าและจำนวนค่าสินไหมทดแทนของท่านได้อย่างรวดเร็ว และรักษาความปลอดภัยให้แก่ท่านจากการฉ้อโกงและการฉ้อฉลประกันภัยได้

อย่างไรก็ตาม มีหลายเหตุผลอื่น ๆ ว่าทำไมเราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่างว่าเราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

เราอาจจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการแตกต่างกันตามรายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อย่อยด้านล่างนี้สำหรับ ตัวแทนประกันชีวิต ในกรณีที่สามารถใช้ได้ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เราจำเป็นต้องมีเหตุผลในการใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลสุขภาพ หรือประวัติอาชญากรรม (“ข้อมูลประเภทพิเศษ”) ซึ่งเรียกว่าฐานทางกฎหมาย ซึ่งเราได้กำหนดไว้ด้านล่างนี้สำหรับเหตุผลหลักว่าทำไมเราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และกรณีที่เราอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • การประมวลผลมีความจำเป็นในการจัดให้ซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยและบริการแก่ท่าน เช่น เพื่อการประเมินใบคำขอเอาประกันภัย และการจัดเตรียมให้ท่านเป็นผู้ถือกรมธรรม์หรือผู้รับผลประโยชน์ การบริหารจัดการกรมธรรม์ประกันภัยหรือผลประโยชน์ของท่าน การให้บริการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การให้ใบเสนอราคา การจัดการและชำระค่าสินไหมทดแทน และการติดต่อกับท่าน ในกรณีดังกล่าวนี้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลของท่าน เราจะไม่สามารถเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย หรือดำเนินการเกี่ยวกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้แก่ท่านได้
  • เราอาจใช้การเก็บข้อมูลผ่านระบบคลาว์ (Cloud storage solutions) ในประเทศสิงคโปร์ที่ซึ่ง ตัวแทนประกันชีวิต มีศูนย์เก็บข้อมูลอยู่ หรือบริษัทอื่นใดในกลุ่มแอกซ่าที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้น (ตามแต่กรณี) เพื่อทำให้แน่ใจว่าการปฏิบัติการดังกล่าวมีประสิทธิภาพและได้รับการพัฒนาให้ทันต่อเทคโนโลยีปัจจุบัน
  • กรณีที่เรามีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎข้อบังคับที่จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เช่น เมื่อผู้กำกับดูแลเรา ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้กำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนดให้เรามีหน้าที่เก็บรักษาบันทึกข้อมูลการติดต่อใด ๆ กับท่าน
  • กรณีที่เราจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เช่น เมื่อเราถูกฟ้องร้องคดี หรือกรณีที่เราจะดำเนินการฟ้องร้องคดี
  • กรณีที่เราจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น การสอบสวนการฉ้อโกงและการฉ้อฉลประกันภัย การตรวจสอบข้อมูลเครดิตและการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
  • กรณีที่ท่านให้ความยินยอมแก่เราในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยปกติ เราจะขอความยินยอมจากท่านเมื่อมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน (เช่น ข้อมูลสุขภาพ) หรือเมื่อเราให้ข้อมูลทางการตลาดแก่ท่าน (รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการอื่น) ซึ่งจะกระทำโดยชัดแจ้งเมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่เรา หากเราขอความยินยอมจากท่าน เราจะอธิบายเหตุผลความจำเป็นในการขอความยินยอมดังกล่าว หากไม่ได้รับความยินยอมจากท่านในบางกรณี เราจะไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ให้ท่านในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ประกันภัย หรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน หรือท่านอาจไม่ได้รับประโยชน์จากการบริการบางอย่างของเรา ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเกี่ยวกับบุคคลที่สามแก่เรา เราอาจจะขอให้ท่านยืนยันว่าบุคคลที่สามนั้นได้ให้ความยินยอมแก่ท่านเพื่อให้ท่านกระทำการแทนได้
  • กรณีที่เรามีความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรักษาบันทึกข้อมูลทางธุรกิจของเรา ในขณะที่เราจะทำให้แน่ใจว่าความจำเป็นทางธุรกิจดังกล่าวจะไม่รบกวนสิทธิและเสรีภาพของท่าน และจะไม่ทำให้ท่านได้รับความเสียหายใด ๆ
  • กรณีที่เราจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน เช่น ข้อมูลสุขภาพ เนื่องจากมีความจำเป็นในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือมีความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

4.1 รายละเอียดฐานทางกฎหมายในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

1) เพื่อตรวจสอบตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติสำหรับดำเนินการพิจารณาคำขอเอาประกันภัยของท่าน จัดทำเอกสารประกอบการเสนอขายให้แก่ท่านรวมถึงการประเมินความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยตามกรมธรรม์ของท่าน

  • ฐานทางกฎหมาย: การปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา กล่าวคือ การใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นเพื่อจัดให้ซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน
  • ฐานทางกฎหมายสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว: ความยินยอมโดยชัดแจ้ง หรือการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

2) เพื่อการประเมินมูลค่ากรมธรรม์ การกำหนดราคาผลิตภัณฑ์ เบี้ยประกันภัย และจัดทำรายงานยอดหนี้เงินกู้คงเหลือและรายงานเกี่ยวกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน

  • ฐานทางกฎหมาย: ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย และการปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา กล่าวคือ เรามีความจำเป็นทางธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมายในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อจัดการกรมธรรม์ประกันภัยของท่านและรายงานเรื่องต่าง ๆ และการใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นสำหรับเราเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎข้อบังคับของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และการใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นเพื่อจัดให้ซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยของท่านและจัดการเรื่องการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
  • ฐานทางกฎหมายสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว: ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

3) เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับกรมธรรม์ เช่น แจ้งข้อมูลของกรมธรรม์ แจ้งเตือนกำหนดชำระเบี้ยประกัน

  • ฐานทางกฎหมาย: การปฏิบัติตามกฎหมาย และการปฏิบัติตามสัญญา กล่าวคือ การใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นเพื่อให้ท่านได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ของท่านและกำหนดชำระเบี้ยประกันเพื่อแจ้งเตือนท่านเมื่อใกล้ถึงกำหนดชำระเบี้ยประกันเพื่อให้ท่านได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง
  • ฐานทางกฎหมายสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว: ความยินยอมโดยชัดแจ้ง หรือการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

4) เพื่อการดำเนินการ จัดให้ และให้บริการช่วยเหลือเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน การประเมินสิทธิในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน และดำเนินการจัดการและการจ่ายค่าสินไหมทดแทน

  • ฐานทางกฎหมาย: การปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา และประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ การใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นเพื่อจัดให้ซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน และเรามีความจำเป็นทางธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมายในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อจัดการกรมธรรม์ประกันภัยของท่านและจัดการเรื่องการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนใด ๆ
  • ฐานทางกฎหมายสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว: ความยินยอมโดยชัดแจ้ง หรือการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ กล่าวคือ เพื่อให้เราสามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ท่านได้ตามกรมธรรม์ประกันภัย

5) เพื่อการติดต่อประสานงานกับท่านหรือดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับข้อร้องเรียนของท่านและเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของบริษัท

  • ฐานทางกฎหมาย: การปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา และประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ การใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นเพื่อจัดให้ซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน และเรามีความจำเป็นทางธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมายในการแก้ไขข้อร้องเรียนใด ๆ
  • ฐานทางกฎหมายสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว: ความยินยอมโดยชัดแจ้ง หรือการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ กล่าวคือ เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการและพัฒนาตามข้อเรียกร้องของท่าน

6) เพื่อก่อตั้ง ปฏิบัติตาม ใช้สิทธิหรือปกป้องสิทธิตามกฎหมาย

  • ฐานทางกฎหมาย: ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อก่อตั้ง ปฏิบัติตาม ใช้สิทธิหรือปกป้องสิทธิตามกฎหมาย
  •  ฐานทางกฎหมายสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว: การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายกล่าวคือ การใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย และการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

7) เพื่อเปิดเผยต่อบุคคลอื่นเนื่องจากเป็นการทำตามสิทธิหรือหน้าที่ที่บริษัทต้องดำเนินการหรือเป็นการปฏิบัติตามสัญญาของบริษัท

  • ฐานทางกฎหมาย: การปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และความยินยอม กล่าวคือ การใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นเนื่องจากเป็นการปฏิบัติตามสัญญา หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อพัฒนาบริการ หรือที่ท่านได้ให้ความยินยอม
  •  ฐานทางกฎหมายสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว: ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง หรือการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

8) เพื่อป้องกัน ตรวจสอบ และสอบสวนการฉ้อโกง และการฉ้อฉลประกันภัย

  • ฐานทางกฎหมาย: การปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา และประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ การใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นเพื่อจัดให้ซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน และเรามีความจำเป็นทางธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมายในการป้องกันการฉ้อโกง และการฉ้อฉลประกันภัย
  • ฐานทางกฎหมายสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว: การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือความยินยอมโดยชัดแจ้ง กล่าวคือ การใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย และการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือท่านได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

9) เพื่อวัตถุประสงค์ของการให้ได้รับชำระหนี้ (กรณีที่ท่านไม่ได้ชำระเบี้ยประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน)

  • ฐานทางกฎหมาย: ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ เรามีความจำเป็นทางธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมายกรณีที่จะต้องดำเนินการทางกฎหมายให้ท่านชำระเบี้ยประกันภัย หากท่านไม่ได้ดำเนินการชำระเบี้ยประกันภัยหรือชำระเบี้ยประกันภัยล่าช้า

10) เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับข้อมูลการจัดการของเรา รวมถึงการจัดการการประกอบธุรกิจของเรา เช่น การจัดทำรายงานสนับสนุนข้อมูลการคำนวณคณิตศาสตร์ประกันภัย การเก็บบันทึกทางบัญชี การวิเคราะห์ผลทางด้านการเงิน ข้อกำหนดการตรวจสอบภายใน การรับคำปรึกษาทางวิชาชีพ (เช่น คำปรึกษาทางด้านภาษีหรือกฎหมาย) โดยเราจะดำเนินมาตรการเพื่อรักษาความปลอดภัยของระบบของเรา และเพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินการของระบบของเราเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

  • ฐานทางกฎหมาย: ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ เรามีความจำเป็นทางธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมายในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อความเข้าใจในธุรกิจของเรา ควบคุมดูแลการปฏิบัติงาน และเก็บรักษาบันทึกข้อมูลอย่างเหมาะสม และเพื่อรักษาความปลอดภัยของระบบของเรา
  • ฐานทางกฎหมายสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว: ความยินยอมโดยชัดแจ้ง หรือการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

11) เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของเรา

  • ฐานทางกฎหมาย: ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ การใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท
  • ฐานทางกฎหมายสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว: ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

12) เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของเรา

  • ฐานทางกฎหมาย: การปฏิบัติตามกฎหมาย กล่าวคือ การใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นสำหรับเราในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎข้อบังคับ กล่าวคือ กฎหมายประกันภัย กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายภาษี กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  •  ฐานทางกฎหมายสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว: การปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

13) เพื่อการพัฒนาด้านการรักษาความปลอดภัย การฝึกอบรม และคุณภาพ (เช่น การบันทึกหรือตรวจสอบในกรณีมีการโทรศัพท์ติดต่อมาที่หมายเลขติดต่อของเรา)

  • ฐานทางกฎหมาย: ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการปรับปรุงหรือพัฒนาระบบการรักษาความปลอดภัย หรือเพื่อใช้สำหรับการฝึกอบรมและพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานของบริษัท
  • ฐานทางกฎหมายสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว: ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

14) เพื่อให้ข้อมูลทางการตลาดแก่ท่านในฐานะลูกค้าบุคคล รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ตามพฤติกรรมความชอบของท่าน

  • ฐานทางกฎหมาย: ความยินยอม หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

15) เพื่อให้ข้อมูลทางการตลาดแก่ท่านในฐานะลูกค้าภาคธุรกิจ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ

  • ฐานทางกฎหมาย: ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

16) เพื่อแจ้งสิทธิพิเศษของท่าน เช่น เชิญเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ งานสัมมนา การตรวจสุขภาพฟรี

  • ฐานทางกฎหมาย: ความยินยอม หรือ ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

4.2 ฐานทางกฎหมายในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้อง

1) เพื่อปฏิบัติตามคำขอเอาประกันภัย เช่น ผู้ชำระเบี้ยประกันภัย ผู้รับผลประโยชน์

  • ฐานทางกฎหมาย: การปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา กล่าวคือ การใช้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นเพื่อจัดให้ซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยของผู้ขอเอาประกันภัย หรือเมื่อพิจารณาจ่ายผลประโยชน์ให้แก่ผู้รับประโยชน์
  1. เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ใคร

เราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่องค์กรสองประเภท - บริษัทในกลุ่มแอกซ่า และบุคคลภายนอกอื่นนอกกลุ่มแอกซ่า โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมของการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้านล่างนี้ เราจะไม่แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หากเราแบ่งปันข้อมูลใด ๆ นอกกลุ่มแอกซ่า ข้อมูลดังกล่าวจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัดและจะถูกใช้เพียงเพื่อสำหรับเหตุผลที่เรากำหนดไว้เท่านั้น

สำหรับตัวแทนประกันชีวิต
เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ใคร

เปิดเผยให้แก่ภายในบริษัทในกลุ่ม ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือของเราโดยท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทในเครือของเราได้ ที่นี่

เพื่อการให้บริการแก่ท่าน ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกแบ่งปันให้แก่บริษัทอื่นในกลุ่มของเรา เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารธุรกิจทั่วไป ความมีประสิทธิภาพ และความถูกต้อง หรือเพื่อป้องกันและตรวจสอบการฉ้อโกงและการฉ้อฉลประกันภัย

เราจัดให้มีการป้องกันเพื่อความปลอดภัยและรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยกำหนดกรอบการโอนข้อมูลผ่าน นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกิจการในเครือ (the Binding Corporate Rules) เมื่อมีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ในกลุ่มแอกซ่า

เปิดเผยแก่บุคคลภายนอก และบริษัทในเครือของบุคคลภายนอก

เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอกดังจะกล่าวต่อไปด้านล่างนี้เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ซึ่งอาจรวมถึง

  • ญาติหรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่าน (ในนามของท่านกรณีที่ท่านไร้ความสามารถหรือไม่สามารถดำเนินการเองได้) หรือบุคคลอื่นหรือองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้องกับท่าน เช่น ตัวแทนประกันภัยของท่าน หรือทนายความของท่าน
  • กรณีที่ท่านระบุชื่อบุคคลหนึ่งเพื่อติดต่อกับเราในนามของท่าน (เช่น เครือญาติของท่าน) เมื่อท่านได้แจ้งให้เราทราบถึงบุคคลติดต่อดังกล่าว บุคคลนี้จะสามารถติดต่อพูดคุยกับเราได้ในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ของท่าน (รวมถึงการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนและการยกเลิกกรมธรรม์) และการดำเนินการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในนามของท่าน
  • คู่ค้าประกันภัยของเรา เช่น ตัวแทนของเรา กล่าวคือ ตัวแทน ที่ปรึกษาทางการเงิน (FSA) ธนาคารนายหน้าประกันภัย (Bancassurance) นายหน้า ผู้รับประกันภัยอื่น ผู้รับประกันภัยต่อ หรือบริษัทอื่นที่กระทำการขายประกัน
  • บุคคลภายนอกที่ให้ความช่วยเหลือด้านการจัดการกรมธรรม์ประกันภัย
  • เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลใด ๆ ที่ระบุในกรมธรรม์แก่บุคคลภายนอกเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่เราใช้เพื่อแจ้งการตัดสินใจในการรับประกันภัย เบี้ยประกันภัย และการเลือกความเสี่ยง
  • หน่วยงานตรวจสอบการฉ้อโกง หรือบุคคลอื่นที่มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบการฉ้อโกง
  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบุคคลภายนอกอื่น หรือหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย กรณีเป็นความจำเป็นเพื่อป้องกันและตรวจสอบอาชญากรรม
  • บุคคลภายนอกผู้ให้บริการด้านต่าง ๆ เช่น ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ผู้ให้บริการด้านการตลาด ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัย ผู้ให้บริการจัดการเอกสาร และที่ปรึกษาทางภาษี
  • ผู้ให้บริการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า
  • ที่ปรึกษาและสถาบันการเงิน
  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และหน่วยงานราชการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
  • ผู้ประเมินความเสียหาย
  • ผู้ให้บริการทางด้านการดูแลสุขภาพของท่าน
  • ตัวแทนในการติดตามทวงถามหนี้
  • หน่วยงานที่ให้บริการข้อมูลเครดิต

เราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกก็ต่อเมื่อบุคคลภายนอกนั้นตกลงที่จะรักษาความลับของข้อมูลอย่างเคร่งครัดและตกลงจะใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะตามที่เราได้ให้ข้อมูลไปเท่านั้น

เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกอื่นใดอีก ในกรณีที่

  • เรามีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอำนาจของหน่วยงานกำกับดูแล เช่น กรณีที่มีคำสั่งศาล มีหน้าที่ตามกฎหมาย ปฏิบัติตามอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และหน่วยงานราชการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง หรือ
  • เรามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการเปิดเผยนั้นมีความจำเป็นต่อการป้องกันหรือตรวจสอบการกระทำความผิดทางอาญา (รวมถึงการฉ้อโกง) หรือมีความสำคัญกว่าประโยชน์สาธารณะ หรือ
  • มีข้อยกเว้นภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้กระทำได้

 กรณีที่ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลอยู่นอกประเทศไทย หรือมีเทคโนโลยีเก็บข้อมูลอยู่นอกประเทศไทย เช่น ประเทศสิงคโปร์ที่ซึ่ง ตัวแทนประกันชีวิตมีศูนย์เก็บข้อมูลอยู่ หรือบริษัทอื่นใดในกลุ่มแอกซ่าที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้น ตามแต่กรณี กรณีที่เราโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกไปนอกประเทศไทย และในทุกกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกโอนไปยังประเทศปลายทางที่ไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย เราจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสมเพื่อทำให้แน่ใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครอง ในการนี้ บริษัทจะจัดทำสัญญากับผู้รับข้อมูลเพื่อกำหนดให้มีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ

  1. เราเก็บบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลนานเท่าไร

โดยส่วนใหญ่ เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาสิบสอง (12) ปี หลังจากการดำเนินความสัมพันธ์ของเรากับท่านได้สิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาดังกล่าวจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เราเก็บ วัตถุประสงค์ และหน้าที่เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของเรา

เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในการดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ และเพื่อ การปฏิบัติตามกฎหมาย ในบางกรณี บริษัทจะลบข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่จำเป็น หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้เพื่อ ใช้สำหรับวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการวิเคราะห์หรือสถิติ ซึ่งเป็นการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ระยะเวลาที่เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคลและวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลนั้น โดยหลัก ระยะเวลาที่เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นไปตามที่กำหนดเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งตามปกติ เราจะเก็บข้อมูลการเสนอค่าเบี้ยประกันภัย บันทึก การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเป็นระยะเวลาถึงสิบสอง (12) ปี นับแต่การดำเนินความสัมพันธ์ของเรากับท่านได้สิ้นสุดลง และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกรมธรรม์เป็นระยะเวลาสิบสอง (12) ปี นับแต่พ้นจากความรับผิดตามกรมธรรม์ที่รับประกันรายสุดท้ายของการดำเนินธุรกิจ

  1. สิทธิของท่าน

ท่านสามารถขอให้เราดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ยกตัวอย่างเช่น ท่านสามารถขอรับสำเนา ขอให้แก้ไข เปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ หรือลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะดำเนินการตามคำขอของท่าน หรือจะอธิบายเหตุผลในกรณีที่เราไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้ – โดยปกติจะมีสาเหตุมาจากประเด็นทางกฎหมาย

ภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ท่านมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึงรายละเอียดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเรา โดยจะไม่คิด ค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนินการตามคำขอของท่าน ทั้งนี้ โดยปกติ เราจะจัดส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นลายลักษณ์อักษร เว้นแต่จะมีคำขอเป็นอย่างอื่นอย่างไรก็ดี บริษัทอาจให้ท่านยืนยันตัวตนก่อนดำเนินตามคำขอเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง 

เราจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อทำให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม กรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องและสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาติดต่อเราตามรายละเอียดที่ให้ไว้ในเอกสารของท่านและท่านสามารถขอให้เราดำเนินการแก้ไขหรือทำให้ถูกต้องเป็นปัจจุบันได้

สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้เราลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ เช่น กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์เดิม หรือในกรณีที่ท่านถอนความยินยอม อย่างไรก็ตาม คำขอของท่านจะต้องสอดคล้องกับปัจจัยอื่น ๆ  ด้วย เช่น สำหรับประเภทของข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน และวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลของท่านในบางกรณี เราอาจจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจทำให้เราไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้

สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้เราระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ เช่น กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเราไม่ถูกต้อง หรือท่านเห็นว่าเราไม่มีความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป

สิทธิในการให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ ท่านมีสิทธิขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกตามที่ท่านระบุไว้ด้วยเหตุบางประการ รวมทั้งมีสิทธิ ดังต่อไปนี้

  • ขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
  • ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้

ทั้งนี้ เมื่อเราดำเนินการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำขอของท่านแล้ว บุคคลภายนอกผู้รับโอนย่อมเป็นผู้รับผิดชอบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือกรณีอื่นตามที่กฎหมายกำหนด

สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

สำหรับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางกรณี เราจะขอความยินยอมจากท่าน ในกรณีดังกล่าวนี้ ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้แก่เราเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ โปรดทราบว่าในบางกรณี หากท่านถอนความยินยอม เราอาจไม่สามารถดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการประกันภัยของท่านได้

อนึ่ง การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน

ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้หากท่านคัดค้านวิธีการที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านสามารถยื่นคำขอเพื่อใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นโดยติดต่อเราได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่ให้ไว้ในกรมธรรม์ของท่าน หรือรายละเอียดการติดต่อของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดทราบว่าในบางกรณีเราอาจไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้ด้วยเหตุบางประการ เช่น เราต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอื่น อย่างไรก็ตาม เราจะดำเนินการตอบกลับคำขอของท่านทุกกรณี และหากเป็นกรณีที่เราไม่สามารถดำเนินการตามคำขอของท่านได้ เราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการปฏิเสธและเหตุผลแห่งการปฏิเสธนั้น

ทั้งนี้ การใช้สิทธิของท่านในบางกรณีอาจทำให้เราไม่สามารถดำเนินการให้ความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยของท่านได้อีกต่อไป และอาจส่งผลให้มีการยกเลิกกรมธรรม์ดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้ท่านสูญเสียสิทธิในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนหรือรับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ของท่าน รวมถึงที่เกี่ยวกับกรณีใด ๆ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่ท่านได้ใช้สิทธิของท่านหากความสามารถของเราในการจัดการการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ของท่านได้รับผลกระทบและเสียหาย ในกรณีที่กรมธรรม์ของท่านถูกยกเลิก บริษัทจะดำเนินการตามข้อตกลงและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ของท่าน

 

ข้อมูลการติดต่อ




สายด่วน โทรหาเรา

081-242-9899

Email


จันทร์ - อาทิตย์

8.00 - 20.00

ฟอร์มการติดต่อ

เช็คเบี้ยประกัน :
ชื่อผู้ติดต่อ :
เพศ :
อายุ :
เบอร์โทรศัพท์ :
Line ID :
ถ้ามี
นัดหมายเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ :
captcha
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์